ตัวอย่าง 03

ตระเวนเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวใน ซัปโปโรที่มีทัศนียภาพแตกต่างกันไปทั้งสี่ฤดู

  • : 1 วัน
  • เส้นทาง: เศียรพระใหญ่ -> ลานเบียร์ซัปโปโรและพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร -> สวนพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮอกไกโด -> เลานจ์ SIAF -> ภูเขาโมอิวะ -> ถนนคนเดินทานุกิโคจิ
  • แผนที่

เศียรพระใหญ่
( : ใช้เวลา 40 นาที)

ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
  • จากสถานีซัปโปโรถึงเศียรพระใหญ่ นั่งรถไฟใต้ดินและต่อรถบัสรวมกันประมาณ 1 ชั่วโมง
  • มีรถบัสจากสถานีมาโคมาไนไปเศียรพระใหญ่ชั่วโมงละ 1 เที่ยว ในระหว่าง 9.00 – 13.00 น. รถบัสขากลับเที่ยวสุดท้ายประมาณ 14.00 น. จำนวนเที่ยวของรถบัสมีจำกัด อย่าลืมกดตรงนี้เพื่อตรวจสอบตารางเดินรถล่วงหน้า
  • การเข้าสักการะพระใหญ่มีค่าใช้จ่ายท่านละ 300 เยนเป็นค่าบำรุงลาเวนเดอร์ ซึ่งสามารถชำระได้ที่เครื่องชำระเงินอัตโนมัติหน้าสวนน้ำ
  • บริเวณที่มีเศียรพระใหญ่เป็นทุ่งลาเวนเดอร์ทั้งหมด ช่วงที่ดีที่สุดในการมาชมคือช่วงกลางถึงปลายกรกฎาคม
  • ฤดูร้อน (เมษายน-ตุลาคม) และฤดูหนาว (พฤศจิกายน-มีนาคม) จะมีเวลาทำการต่างกัน อย่าลืมตรวจสอบก่อนมา

มีสถานที่ท่องเที่ยวในซัปโปโรที่ได้รับความสนใจในหลายปีให้หลังนี้ ซึ่งก็คือ “เศียรพระใหญ่” พระใหญ่ที่มี
ชื่อเสียงในญี่ปุ่นจะอยู่ที่เกียวโต นารา และคามาคุระ แต่ก็ไม่ควรพลาดพระใหญ่ของซัปโปโร

ป้ายบอกทางตั้งแต่รถไฟใต้ดินสถานีมาโคมาไนถึงจุดขึ้นรถบัส
จุดขึ้นรถบัสหมายเลข 2 ของสถานีมาโคมาไน

จากส่วนใจกลางเมืองซัปโปโรไปถึงเศียรพระใหญ่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีโดยระบบขนส่งสาธารณะ ก่อนอื่นจากสถานีซัปโปโร ให้นั่งรถไฟใต้ดินไปยังสถานีมาโคมาไน เมื่อลงจากรถไฟใต้ดินแล้วให้ไปทางซ้าย เพื่อขึ้นรถบัส “真108” ที่จุดขึ้นรถบัสหมายเลข 2 ของจุดขึ้นรถบัสฝั่งทิศใต้ แล้วจะมาถึงสุสานมาโคมาไนทาคิโนะ
ที่มีเศียรพระใหญ่อยู่ในเวลาประมาณ 23 นาที

เศียรพระใหญ่ตั้งอยู่ที่มุมหนึ่งของสุสานที่มีหลุมศพเรียงราย เป็นพระใหญ่ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ออกแบบโดยคุณทาดาโอะ อันโด สถาปนิกที่มีชื่อเสียงระดับโลก หากมองจากด้านนอกจะเป็นเนินทรงโดมที่มองเห็นเพียงส่วนหนึ่งของเศียรเท่านั้น

การสักการะพระใหญ่จะต้องอ้อม “สวนน้ำ” ที่ทางเข้าและลอดผ่าน “อุโมงค์” เข้าไป สวนน้ำนี้หมายถึง “หลักกำหนดเขต” การเดินอ้อมไปคือการข้ามเส้นแบ่งเขตแดนสำหรับปรับเปลี่ยนจิตใจเราจากโลกในชีวิตประจำวันที่เราอยู่ไปยังโลกที่ต่างออกจากชีวิตประจำวันที่พระใหญ่อยู่

เมื่อเดินทะลุอุโมงค์ออกมาก็จะพบกับพระใหญ่ เป็นองค์พระขนาดใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยบารมีภายในโดมที่ทำจากหิน เมื่อมองขึ้นไปจะเห็นพระใหญ่ที่มีท้องฟ้าลอยอยู่ด้านหลัง เป็นภาพที่สัมผัสได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์

ด้านข้างานข้างพระใหญ่มีจำหน่ายแผ่นเขียนคำอธิษฐาน (เอมะ) และเซียมซี (โอมิคุจิ) ให้สนุกกับการสร้างความทรงจำดี ๆ เป็นที่ระลึกในการมาที่นี่ได้ โดยการดูดวงกับโอมิคุจิหรือวาดหน้าของตัวเองกับคนที่คิดถึงในเอมะ

เศียรพระใหญ่จะมีทัศนียภาพเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ในฤดูใบไม้ผลิจะมีซากุระ ฤดูร้อนมีลาเวนเดอร์ ฤดูใบไม้ร่วงมีใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูหนาวจะปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน ไม่ว่าจะมาในฤดูไหนเศียรพระใหญ่ก็ให้ความรู้สึกพิเศษไม่เหมือนใคร

ใกล้ ๆ กันมีรูปปั้นโมอายและสโตนเฮนจ์ด้วย อยากให้ลองมาตรงนี้เหมือนกัน ว่ากันว่ารูปปั้นเหล่านี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นหลุมศพโบราณ แต่หากไปดูหลังชมเศียรพระใหญ่แล้วก็จะรู้สึกแปลก ๆ ราวกับหลงไปยังอีกโลกหนึ่ง ดื่มด่ำกับประสบการณ์ที่หาที่อื่นไม่ได้อย่างเต็มที่จนถึงเวลารถบัสขากลับได้เลย

กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเศียรพระใหญ่


ลานเบียร์ซัปโปโรและพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร
( : ใช้เวลา 120 นาที)

ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

  • จากเศียรพระใหญ่ถึงพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโรนั่งรถไฟใต้ดินและรถบัสรวมประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
  • นั่งรถบัสกลับมายังสถานีมาโคมาไน และจากสถานีมาโคมาไนก็นั่งรถไฟใต้ดินไปสถานีซัปโปโร จากนั้นขึ้นรถบัส “循環88” ที่ป้ายรถบัสหน้าทางเข้าห้างสรรพสินค้าโตคิวทางฝั่งทิศใต้ของสถานี
  • รถบัสจากห้างสรรพสินค้าโตคิวไปลานเบียร์ซัปโปโรออกทุก 30 นาที
  • พรีเมี่ยมทัวร์ของพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโรมีวันละ 4 รอบ (ใช้เวลา 50 นาที) ต้องจองล่วงหน้าทางเว็บไซต์
  • ค่าเข้า 1,000 เยน (นักเรียนมัธยมต้น – ไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ 500 เยน และนักเรียนประถมหรือต่ำกว่า ฟรี) [ข้อมูล ณ 1 ธ.ค. 2023] มีเครื่องบรรยายเสียงภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลีด้วย (มีค่าใช้จ่าย)
  • พรีเมี่ยมทัวร์ไม่รวมอาหาร ให้รับประทานในลานเบียร์ซัปโปโรแยกต่างหาก
SONY DSC

เมื่อสักการะเศียรพระใหญ่เสร็จแล้ว ก็เดินทางไปยังสถานที่ที่สามารถเพลิดเพลินกับเนื้อแกะย่างเจงกิสข่าน วัฒนธรรมอาหารของฮอกไกโดกับเบียร์ของญี่ปุ่น

กลับมาที่สถานีซัปโปโร แล้วไปลานเบียร์ซัปโปโรโดยขึ้นรถบัส 循環88 จากป้ายรถบัสหน้าห้างสรรพสินค้าโตคิวทางฝั่งทิศใต้ของสถานี

ภายในมีพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโรซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เบียร์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดในญี่ปุ่น มาทั้งที ขอแนะนำให้เข้าร่วมพรีเมี่ยมทัวร์แบบมีไกด์ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ซัปโปโรเป็นสถานที่หมักเบียร์อย่างจริงจังแห่งแรกที่ดำเนินการโดยคนญี่ปุ่น สามารถมาสัมผัสกับประวัติศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงนั้นได้

จุดสำคัญที่ไม่ควรพลาดชมคือโปสเตอร์ที่แกลเลอรีจัดแสดง มีโปสเตอร์ติดเรียงรายสวยงามมาก และวิดีโอในช่วงท้ายจะสรุปการเปลี่ยนแปลงที่เชื่อมมาถึงซัปโปโรในปัจจุบันให้อย่างเข้าใจง่ายด้วย ขอแนะนำให้ดูจนจบ

เสน่ห์ของพรีเมี่ยมทัวร์อีกอย่างหนึ่งก็คือการที่สามารถดื่มเทียบเบียร์ได้ในตอนจบ

โดยเฉพาะ “เบียร์ฟุกโกกุซัปโปโร” ที่จำลองกรรมวิธีผลิตในยุคก่อตั้งซึ่งเป็นเมนูล้ำค่าที่มีให้ดื่มที่นี่เท่านั้น ท่านที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็สามารถสนุกกับ “ริบบอนนโปเลียน” น้ำอัดลมที่จำหน่ายเฉพาะในฮอกไกโดได้

จบทัวร์แล้วก็เป็นเวลาอาหารกลางวัน ย้ายมาลานเบียร์แล้วลิ้มรสเนื้อแกะย่างเจงกิสข่าน

เนื้อแกะย่างเจงกิสข่านเป็นโซลฟู้ดของฮอกไกโดที่เป็นการนำเนื้อแกะมาย่างด้วยกระทะแบบเฉพาะจิ้มซอสสูตรพิเศษ รสชาติของเบียร์หลังจากได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์มายิ่งอร่อยเหนือใคร

กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลานเบียร์ซัปโปโรและพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร
กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อแกะย่างเจงกิสข่าน


สวนพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮอกไกโด
( : ใช้เวลา 60 นาที)

ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

  • หากจะไปสวนพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮอกไกโด ต้องนั่งรถบัสจากลานเบียร์ซัปโปโรกลับมายังห้างสรรพสินค้าโตคิว และเดินไปทางใต้ประมาณ 10 นาที
  • มีค่าเข้า (ฤดูร้อน: มัธยมปลายขึ้นไป 420 เยน, ประถมและมัธยมต้น 300 เยน ไม่ถึงประถม ฟรี / ฤดูหนาว: ประถมขึ้นไป 120 เยน) [ข้อมูล ณ 1 ธ.ค. 2023]
  • ช่วงฤดูหนาว (4 พ.ย. – 28 เม.ย.) จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะโรงเรือนและเวลาทำการจะสั้นลง

หลังรับประทานอาหารที่ลานเบียร์ซัปโปโรเสร็จแล้วก็มาเดินย่อยท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งคือ สวนพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮอกไกโด ที่สามารถเดินจากสถานีซัปโปโรมาได้ในเวลาประมาณ 10 นาที

ที่นี่เปิดให้เข้าชมได้ตลอดตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง สามารถสนุกกับดอก ผล และใบไม้เปลี่ยนสีของต้นไม้นานาพันธุ์ได้

ภายในมีป่าธรรมชาติที่มนุษย์ไม่ได้เข้าไปแตะต้องตั้งแต่ก่อตั้งที่นี่เลยด้วย เป็นที่ที่มีธรรมชาติอันล้ำค่าระดับชั้นนำของฮอกไกโดเหลืออยู่ มีต้นไม้ใหญ่ เช่น ต้นอิตายากาเอเดะ ต้นโอโมมิจิ ฯลฯ เป็นทัศนียภาพที่ไม่คิดว่าอยู่ในตัวเมืองเลย

ภายในสวนมีพิพิธภัณฑ์ที่มีหุ่นสตัฟฟ์ของสัตว์ในฮอกไกโด ฯลฯ อีกทั้งมีร่องรอยที่อยู่อาศัยแบบทาเตอานะชิกิ (ขุดหลุมเพื่อสร้างบ้าน) ฯลฯ ด้วย ให้สนุกกันได้กับบรรยากาศดุจในนิยาย จนอยากจะเที่ยวสนุกเท่าที่จะมีเวลา

กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสวนพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮอกไกโด


เลานจ์ SIAF (ไซอัฟ)
( : ใช้เวลา 30 นาที)

ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

  • เลานจ์ SIAF อยู่ที่ชั้น 1 ของหอจดหมายเหตุซัปโปโร เดินจากสวนพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮอกไกโดไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 10 นาที
  • เทศกาลศิลปะนานาชาติซัปโปโร (SIAF) เป็นอีเว้นท์ด้านศิลปะที่จัดขึ้น 3 ปีครั้งตั้งแต่ปี 2014
  • อาคารของหอจดหมายเหตุซัปโปโรในปัจจุบันเคยถูกใช้เป็นศาลอุทธรณ์ซัปโปโรมาก่อน
  • เป็นอาคารอันล้ำค้าที่สร้างด้วยหินซอฟต์สโตนที่ผลิตในซัปโปโร และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ
  • ภายในมีพาแนลแนะนำประวัติของหอจดหมายเหตุ ซึ่งบางส่วนมีระบุเป็นภาษาอังกฤษด้วย

เมื่อเดินจนเหนื่อยแล้วก็ลองมาแวะที่หอจดหมายเหตุซัปโปโร ซึ่งห่างจากสวนพฤกษศาสตร์เพียงเดินประมาณ 10 นาที

ที่นี่เคยเป็นหนึ่งในสถานที่จัดเทศกาลศิลปะนานาชาติซัปโปโร (Sapporo International Art Festival: SIAF) และที่ชั้น 1 ก็มีเลาจน์สำหรับเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาลศิลปะดังกล่าวด้วย

มีกาแฟและเครื่องดื่มต่าง ๆ รวมถึงอาหารเบา ๆ เช่น ช็อกโกบาร์ ฯลฯ จำหน่าย จึงขอแนะนำให้มาแวะพักที่นี่สักพักก่อนที่จะไปขึ้นรถรางเพื่อไปภูเขาโมอิวะต่อไป

กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหอจดหมายเหตุซัปโปโร
กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลานจ์ SIAF
กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลานจ์ SIAF


ภูเขาโมอิวะ
( : ใช้เวลา 60 นาที)

ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

  • จากเลาจน์ SIAF ถึงยอดภูเขาโมอิวะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
  • จากเลาจน์ SIAF เดินประมาณ 6 นาทีไปขึ้นรถรางที่สถานีนิชิ 15 โจเมะ และลงที่สถานีโรปเวย์อิริกูจิ แล้วเดิน 7 นาทีไปต่อกระเช้าลอยฟ้าและมินิเคเบิลคาร์จากสถานีซันโรคุของกระเช้าลอยฟ้าภูเขาโมอิวะซัปโปโร เพื่อไปยังยอดภูเขาโมอิวะ
  • กดตรงนี้เพื่อตรวจสอบเวลาเดินรถ
  • การใช้บริการกระเช้าลอยฟ้าและเคเบิลคาร์ต้องซื้อตั๋วของแต่ละอย่าง แต่มีชุดตั๋วไปกลับทั้งสองอย่างรวมกันในราคาพิเศษ (2,100 เยน / นักเรียนประถมหรือต่ำกว่า 1,050 เยน) ซื้อตั๋วได้ที่จุดจำหน่ายตั๋วชั้น 4 สถานีซันโรคุ

เมื่อใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกดินก็ออกเดินทางไปยังภูเขาโมอิวะ นั่งรถรางไปยังสถานี “โรปเวย์อิริกูจิ” เพื่อไปสถานีซันโรคุของกระเช้าลอยฟ้าภูเขาโมอิวะซัปโปโร

จากสถานีซันโรคุนั่งกระเช้าลอยฟ้าและต่อมินิเคเบิลคาร์ไปยังยอดภูเขาโมอิวะ

กระเช้าลอยฟ้าจะมีหน้าต่างบานใหญ่ให้สามารถตื่นตาตื่นใจไปกับการชมวิวเมืองที่ค่อย ๆ กว้างขึ้นตามความสูงของกระเช้าได้ อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือทัศนียภาพของภูเขาโมอิวะที่เปลี่ยนไปตามแต่ละฤดู โดยฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนจะเต็มไปด้วยสีเขียว ฤดูใบไม้ร่วงจะมีใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูหนาวจะเป็นวิวหิมะสีขาว

จากจุดชมวิวที่ยอดเขาจะสามารถมองเห็นภาพเมืองซัปโปโรทั้งหมดได้แบบพาโนรามา 360 องศา เป็นทัศนียภาพ
เมืองซัปโปโรที่มีประชากร 1.9 ล้านคนมีไฟระยิบระยับงดงามราวกับผืนพรม หากมีเวลาควรรีบขึ้นไปเร็วเล็กน้อย เพื่อเพลิดเพลินกับช่วงเวลาต้องมนต์อันน่ามหัศจรรย์ที่ทัศนียภาพยามเย็นเปลี่ยนเป็นทัศนียภาพยามค่ำคืน

ทัศนียภาพยามค่ำคืนของซัปโปโรมีความงามระดับชั้นนำของญี่ปุ่นและได้รับเลือกให้เป็น “หนึ่งในสามทัศนียภาพยามค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่แห่งใหม่ของญี่ปุ่น” ด้วย เชิญมาชมทัศนียภาพยามค่ำคืนที่งดงามจนแทบลืมหายใจด้วยตัวท่านเอง

กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูเขาโมอิวะ


ถนนคนเดินทานุกิโคจิ
( : ใช้เวลา 60 นาที)

ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

  • จากภูเขาโมอิวะถึงถนนคนเดินทานุกิโคจิใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
  • จากสถานีโรปเวย์อิริกูจิ นั่งรถรางไปลงที่สถานีทานุกิโคจิ
  • ย่านการค้ามี 7 บล็อกความยาวรวมประมาณ 900 เมตร มีร้านค้าอยู่ประมาณ 200 ร้าน

เมื่อลงจากภูเขาโมอิวะ ก็ไปจบการเดินทางในหนึ่งวันที่ถนนคนเดินทานุกิโคจิกัน เป็นย่านการค้าที่ช่วงกลางวันจะมีผู้คนจำนวนมากมาซื้อของ แต่พอตกกลางคืนจะคึกคักไปด้วยผู้คนที่มาหาของรับประทาน

ทานุกิโคจิเป็นที่รู้จักมาแต่โบราณว่าเป็นย่านที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรงของราเม็ง มีร้านชื่อดังจำนวนมาก และยังเป็นแหล่งรวมร้านชื่อดังที่มีเมนูแบบเฉพาะของฮอกไกโดและซัปโปโร เช่น อาหารทะเล ซุปแกงกะหรี่ ฯลฯ ด้วย

อีกทั้งไม่ใช่แค่ร้านค้าในถนนสายหลัก ในทานุกิโคจิ 2 โจเมะยังมี “ทานุกิโคมิจิ” ที่เป็นแหล่งรวมร้านอาหารหลาย ๆ
ร้านในซอย และมีตลาดทานุกิโคจิที่คนท้องถิ่นชื่นชอบด้วย สำหรับท่านที่ลังเลไม่รู้ว่าจะรับประทานอะไรดี ขอแนะนำให้ลองเดินรับประทานหลาย ๆ ร้านดู

กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับถนนคนเดินทานุกิโคจิ
กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซูชิและอาหารทะเล
กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซุปแกงกะหรี่

PAGE TOP