เดินเที่ยว: สำรวจธรรมชาติอันงดงามกับถนนเมืองอันโด่งดัง
- : 1 วัน
- เส้นทาง: เดินเขามารุยามะ > เดินเล่นในบริเวณมารุยามะ > ศาลเจ้าฮอกไกโดจิงกู > ถนนคนเดินทานุกิโคจิ > ซุซุกิโนะ
- MAP
เดินเขามารุยามะ ( : ประมาณ 1 ชั่วโมง)
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
- ภูเขามารุยามะตั้งอยู่ห่างจากสถานีซัปโปโรประมาณ 30 นาทีโดยรถไฟใต้ดิน (รวมเวลาเดินแล้ว)
- มองหาวิหารไดชิโด ซึ่งเป็นทางเข้าสู่เส้นทางมารุยามะฮาจิจูฮักกาโช ที่คุณจะได้พบกับเจ้าแม่กวนอิม เทพเจ้าแห่งความเมตตาทั้ง 88 องค์ตลอดทางเดินขึ้นเขา
- ช่วงที่เหมาะแก่การมาที่สุดคือระหว่างมิถุนายนถึงกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายแต่ยังไม่หนาวเกินไป
- หากจะมาเดินเขาลูกนี้ในช่วงฤดูหิมะ ขอแนะนำให้หาไกด์มาด้วย
- สามารถใส่เสื้อผ้าที่เบาสบายได้ แต่ขอให้ใส่รองเท้าหรือบูทที่ไม่ลื่น
- คุณอาจพบกับหมีระหว่างทาง ขอให้ ตรวจสอบข้อมูลการพบหมีตลอดทางที่คุณจะไป และ ศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยเมื่อพบหมีก่อนที่จะเข้าพื้นที่ป่า
ซัปโปโรเป็นเมืองที่ผสมผสานระหว่างบรรยากาศแบบตัวเมืองกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ วิธีที่จะชมการเข้ากันอย่างลงตัวนี้ได้ดีที่สุดคือการเดินขึ้นภูเขามารุยามะ ซึ่งเป็นภูเขาที่ขึ้นง่ายที่สุดด้วย
แค่เพียงออกจากบริเวณที่อยู่อาศัยมาเล็กน้อยก็จะพบกับภูเขามารุยามะ เขตพื้นที่ป่าที่มนุษย์แทบไม่ได้เข้าไปแตะต้อง ตั้งอยู่ที่ความสูง 225 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีทางขึ้นเขาอยู่สองทาง แต่ทางที่ดีที่สุดคือเส้นทาง
มารุยามะฮาจิจูฮักกาโช
ซึ่งเป็นการตั้งชื่อล้อตาม 88 ศาลเจ้าแสวงบุญในชิโกกุ โดยมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม เทพเจ้าแห่งความเมตตา หลากหลายขนาดอยู่ตลอดทาง ภาพองค์เจ้าแม่กวนอิมเหล่านี้ที่ตั้งอยู่อย่างสงบนิ่งท่ามกลางป่าทึบให้บรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ การมาเดินเขานี้จะช่วยให้คุณได้ก้าวออกจากบรรยากาศในชีวิตประจำวัน
ต้นไม้ขนาดใหญ่ รวมถึงต้นคัตสึระอายุกว่า 100 ปีจะบดบังทิวทัศน์ของโลกภายนอกนับตั้งแต่ก้าวเข้ามาในเส้นทางนี้
ใช้เวลาประมาณ 30 – 40 นาทีในการเดินให้ถึงยอดเขา ซึ่งจะสิ้นสุดบริเวณป่าและได้พบกับทัศนียภาพของเมืองซัปโปโรทั้งหมด เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะหาการผสมผสานอย่างลงตัวของธรรมชาติและวิวเมืองแบบนี้ และเป็นภาพที่คุ้มค่ากับการเดินขึ้นเขามาชม
กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูเขามารุยามะ
เดินเล่นในบริเวณมารุยามะ ( : ประมาณ 1 ชั่วโมง)
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
- เริ่มต้นจากศูนย์การค้ามารุยามะคลาส (เดินประมาณ 7 นาทีจากต้นทางของภูเขามารุยามะ)
- เริ่มจากเดินไปทางตะวันออกตามถนนมินามิ 1-โจโดริ (ชื่อเล่นว่า “อูราซันโด”)
- เมื่อมาถึงถนนนิชิ 24-โจเมะ ให้เดินขึ้นเหนือจนไปถึงถนนคิตะ 1-โจโดริ แล้วเที่ยวในย่านร้านค้ามารุยามะ
- ขอแนะนำให้ซื้ออาหารกลางวันแบบนำกลับแล้วไปรับประทานที่สวนสาธารณะมารุยามะ
หลังจากเดินเขามารุยามะก็ไปเดินเล่นในย่านที่อยู่อาศัยใกล้ ๆ ถนนอูราซันโดและย่านร้านค้ามารุยามะเป็นแหล่งรวมร้านอาหารและคาเฟ่ชิค ๆ ที่เป็นที่นิยมทั้งสำหรับคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว
มีร้านค้าทั้งเก่าและใหม่ตั้งเรียงรายตลอดถนน
ร้านอาหารหลายร้านในย่านนี้จะมีเมนูให้ซื้อกลับบ้านจึงเป็นที่ในอุดมคติในการเติมพลังหลังเดินเขา
ขอแนะนำให้ซื้อแซนด์วิชหรือขนมปังแล้วไปรับประทานในสวนสาธารณะมารุยามะอันเขียวขจี
ไม่มีอะไรทำให้อาหารอร่อยได้ดีกว่าการออกไปอยู่ในอากาศบริสุทธิ์กับธรรมชาติรอบ ๆ ตัวคุณ!
หลังรับประทานอาหารกลางวันก็หลับพักผ่อนบนผืนหญ้าหรือเดินเล่นในสวนเพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติอันงดงามให้ได้มากที่สุด
ศาลเจ้าฮอกไกโดจิงกู ( : ประมาณ 40 นาที)
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
- เดินประมาณ 15 นาทีจากย่านร้านค้ามารุยามะ เข้าสู่ศาลเจ้าจากซุ้มประตูแดง (โทริอิ) ในสวนสาธารณะมารุยามะ
- ปกติซากุระจะบานประมาณปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคม
- ใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยเหมือนกัน ซึ่งจะดูได้ในช่วงต้นตุลาคม
ศาลเจ้าฮอกไกโดจิงกูเป็นสถานที่ที่จะพลาดไม่ได้ ตั้งอยู่ติดกับสวนสาธารณะมารุยามะ
คุณจะสัมผัสได้ถึงความเคร่งขรึมและความศักดิ์สิทธิ์ของที่แห่งนี้นับตั้งแต่ก้าวเข้ามาภายในพื้นที่ของศาลเจ้า ปกติเป็นธรรมเนียมที่จะโค้งคำนับก่อนเข้าซุ้มประตู
ศาลเจ้าฮอกไกโดจิงกูตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวชอุ่ม ถือเป็นหนึ่งใน “พาวเวอร์สปอต” ที่ดีที่สุดของฮอกไกโด
ซึ่งเป็นคำที่คนญี่ปุ่นใช้เรียกสถานที่ที่เชื่อว่ามีพลังแห่งการเยียวยาอันศักดิ์สิทธิ์อยู่
ด้านนอกวิหารมีพื้นที่เล็ก ๆ ที่เรียกว่าโชซุ เป็นจุดสำหรับล้างมือและปากให้บริสุทธิ์ตามธรรมเนียมด้วยน้ำที่ทางศาลเจ้าจัดเตรียมให้ ในการสักการะให้ไปที่กล่องรับเงินถวาย (ไซเซ็นบาโกะ)
และโยนเงินจำนวนเล็กน้อยลงไปในกล่อง จากนั้นก็ลั่นกระดิ่ง โค้งคำนับสองครั้ง ตบมือสองครั้ง และโค้งคำนับอีกหนึ่งครั้ง
พื้นที่ภายในบริเวณศาลเจ้ามีความงดงามที่ต่างออกไปในแต่ละฤดู ทั้งซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะในฤดูหนาว และอาจได้พบกับกระรอกป่าสักตัวสองตัวด้วย!
หากต้องการสัมผัสกับศาลเจ้าฮอกไกโดจิงกูแบบคนท้องถิ่นให้แวะร้านขนมหวานหนึ่งในสองร้าน โดยทั้งสองร้านจำหน่ายโมจิไส้ถั่วแดงในแบบที่หาที่อื่นไม่ได้ ได้แก่ ฟูกูเรโมจิของร้านจิงกูชายะ และ ฮันกันซามะของร้าน
รกกาเตจิงกูชายะ
ฟูกูเรโมจิของร้านจิงกูชายะ
ฮันกันซามะของร้านรกกาเตจิงกูชายะ
กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศาลเจ้าฮอกไกโดจิงกู
ถนนคนเดินทานุกิโคจิ ( : ประมาณ 1 ชั่วโมง)
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
- นั่งรถไฟใต้ดินจากสถานีมารุยามะโคเอนไปยังสถานีโอโดริ
- หากฝนตกหรือหิมะตก ก็สามารถใช้ทางใต้ดินไปยังทานุกิโคจิได้ ออกจากสถานีโอโดริด้วยทางออกหมายเลข 11 แล้วเข้าบริเวณโพลทาวน์
จากนั้นไปออกประตูทานุกิโคจิของโพลพลาซ่า
หลังเพลิดเพลินกับธรรมชาติของมารุยามะแล้วก็มุ่งหน้าไปสถานีรถไฟใต้ดินมารุยามะโคเอน ก็จะกลับมายังตัวเมืองซัปโปโรได้ในประมาณ 5 นาที จากสวนสาธารณะโอโดริลงไปทางใต้เล็กน้อยจะมีถนนคนเดินทานุกิโคจิอยู่
ถนนคนเดินทานุกิโคจิเป็นหนึ่งในย่านร้านค้าที่เก่าแก่ที่สุดในฮอกไกโดด้วยประวัติยาวนานถึง 150 ปี มีร้านค้าหลายขนาดและหลายหมวดหมู่เท่าที่คุณจะจินตนาการได้ตั้งเรียงยาวประมาณ 900 เมตรจากตะวันออกไป
ตะวันตก
ตั้งแต่ร้านอาหารเก่าแก่ไปจนถึงคาเฟ่สมัยใหม่ ทำให้ทานุกิโคจิสามารถตอบโจทย์ได้ทุกคน
ร้านค้าจำนวนมากมีหน้าร้านที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง การได้มาเดินเล่นชมป้ายต่าง ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่สัมผัสได้ของที่นี่
หลายปีให้หลังนี้มีอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาจำนวนมาก รวมถึงย่านร้านอาหารและศูนย์การค้าที่มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำด้วย สามารถมาหาซื้อของฝากในร้านของฝากขนาดใหญ่ ร้านเครื่องสำอาง หรือร้านสินค้าลดราคาก็ได้
ย่านร้านค้าอันมีชีวิตชีวาแห่งนี้มีจำหน่ายทุกอย่าง!
ในเขต 2-โจเมะมีศาลเจ้าที่สักการะทานุกิอยู่ จึงเป็นที่มาของชื่อย่านร้านค้าแห่งนี้ ว่ากันว่าหากได้ลูบรูปปั้น
ผู้พิทักษ์ (จิโซ) แล้วจะได้รับสิ่งที่ปรารถนาต่าง ๆ
กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับถนนคนเดินทานุกิโคจิ
ซุซุกิโนะ ( : ประมาณ 2 ชั่วโมง)
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
- เดินประมาณ 5 นาทีจากถนนคนเดินทานุกิโคจิ
- มองหาป้ายไฟนีออนนิกกะวิสกี้ขนาดใหญ่
- เพลิดเพลินกับราเม็งหรือชิเมะพาเฟต์หลังดื่มตอนกลางคืน
- ดู เว็บไซต์นี้ สำหรับข้อมูลร้านอาหารที่ดีที่สุดในซุซุกิโนะ
จบการเดินเที่ยวซัปโปโรด้วยการเดินเล่นในซุซุกิโนะ ย่านบันเทิงใจกลางซัปโปโร
ซุซุกิโนะถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสามย่านบันเทิงชั้นนำของญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในที่ที่สว่างที่สุดด้วย มีอาคารจำนวนมากและแต่ละอาคารก็มีร้านค้าอีกหลายร้าน
ยากมากถ้าจะไม่รู้สึกตื่นเต้นไปกับแสงไฟนีออนอันสว่างเป็นประกายทั้งหมดของย่านนี้
เราสามารถหารับประทานสุดยอดอาหารตามฤดูกาลของฮอกไกโดทั้งหมดได้ในซัปโปโร
แต่ก็ไม่มีที่อื่นอีกแล้วที่จะหาได้ดีเท่าซุซุกิโนะ มีร้านอาหารทะเลสด ๆ
ของฮอกไกโดให้เลือกนับไม่ถ้วน ตั้งแต่ร้านซูชิไปจนถึงร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น (อิซะกะยะ) ที่เน้นไปที่อาหารทะเล
สามารถมาลิ้มรสชาติพิเศษของซัปโปโรได้ทุกอย่างเท่าที่จะนึกออกเลย
มีร้านชื่อดังของเจงกิสข่าน (เนื้อแกะย่าง) ราเม็ง และชิเมะพาเฟต์ (พาเฟต์สำหรับรับประทานหลังดื่ม) จำนวนมากจนไม่รู้ว่าจะเริ่มจากที่ไหนดี!
กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซุซุกิโนะ
กดตรงนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับร้านอาหารในซุซุกิโนะ